แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 1 เอฟเวอร์ตัน
ชมวีดีโอคลิปไฮไลท์การแข่งขัน คลิ๊กที่นี่
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 67,831 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 23.00 น. วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2548
ผู้ตัดสิน ร็อบ สไตลส์
หลังจากการตกรอบฟุตบอลยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์ ความหวังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการไล่ตามเชลซี ในศึกพรีเมียร์ชิพกลายเป็นงานที่ยากขึ้นไปอีกจากผลเสมอกัน 1-1 ที่น่าหงุดหงิดกับเอฟเวอร์ตัน เมื่อวันอาทิตย์
ปัญหาเดิมๆ ที่ยังตามก่อกวนไม่เลิกกับการมีโอกาสทำประตูมากมายแต่เปลี่ยนให้เป็นประตูไม่ได้ในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งก็เหมือนกับที่ทำให้ตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปก่อนเวลาอันควร เป็นสาเหตุสำคัญของผลเสมอกับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งทำให้ปิศาจแดง ตามหลังเชลซี เป็น 12 คะแนนแล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สร้างสรรค์โอกาสได้มากมายในครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม จากการประกบที่ผิดพลาดทำให้เจมส์ แม็คฟาดเด้น ทำประตูแรกของเกมได้ ก่อนที่ปิศาจแดง จะทำได้เพียงตามตีเสมอจากประตูของไรอัน กิ๊กส์
กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากมาย แต่ผลสุดท้ายกลับปล่อยให้หลุดลอยไป เหมือนกับ 2 คะแนนอันล้ำค่าที่คว้ามาไม่ได้
การต้อนรับของกองเชียร์ต่ออดีตนักเตะของทั้ง 2 สโมสรตั้งแต่ช่วงต้นเกมก็แตกต่างกันแล้ว ฟิล เนวิลล์ ได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลเจ้าถิ่นอย่างอบอุ่นกว่าที่เวย์น รูนี่ย์ ได้รับจากแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน ที่เดินทางมาเยือน
เกมเริ่มต้นขึ้นด้วยการบุกกระหน่ำโดยทันที จากลูกเตะมุมในนาทีที่ 2 พอล สโคลส์ ได้โอกาสวอลเล่ย์จากนอกกรอบเขตโทษ แต่ไปติดตัวริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังทีมเดียวกัน
หลังจากนั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เล่นผิดพลาดในแดนหลัง มิเกล ซิลแวสตร์ ส่งบอลคืนหลังไปให้เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ผู้รักษาประตูร่างโย่งกลับเตะบอลออกมาไม่ดี แต่ยังโชคดีที่กองหลังชาวฝรั่งเศสเข้าไปบล็อกลูกยิงโล่งๆ ของเจมส์ บีทตี้ เอาไว้ได้ทัน หลังจากนั้น อลัน สมิธ ได้จังหวะยิงในกรอบเขตโทษที่แออัดไปด้วยผู้เล่น แต่ลูกยิงของเขาถูกริชาร์ด ไรท์ ป้องกันเอาไว้ได้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียง 5 นาทีแรก
และก็เป็นเอฟเวอร์ตัน ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 7 เควิน คิลเบน กระชากบอลจากด้านซ้ายตัดเข้ากลางจากจังหวะโต้กลับ กองหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วิ่งไล่ตามไม่ทัน แต่ในจังหวะที่เขาถูกหยุดแกรี่ เนวิลล์ เอาไว้ได้ ลีออน ออสแมน ก็เอาบอลกลับคืนมาได้ แล้วไหลบอลเร็วไปให้กับเจมส์ แม็คฟาดเด้น ทางด้านซ้ายโล่งๆ กองกลางชาวสก็อตแลนด์ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งผ่านตัวเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าประตูไปที่เสาแรก
ในเกมที่เล่นกันอย่างรวดเร็ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เวลาไม่นานนักในการเอาคืน รูนี่ย์ ซึ่งถูกแฟนบอลเอฟเวอร์โตเนี่ยนยุแหย่ เล่นอย่างเดือดดาลด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมและความดุดัน ทำให้สโคลส์ เล่นได้ง่ายขึ้นด้วยการลงต่ำไปสร้างสรรค์เกม และก็เป็นสโคลส์ ซึ่งแสดงสัญญาณว่ากำลังกลับคืนฟอร์มเก่งอีกครั้ง ที่เจาะแนวรับของทีมเยือนได้สำเร็จในนาทีที่ 15 เมื่อเขาได้บอลในระยะจากกลางสนามเข้าไปในฝั่งของเอฟเวอร์ตัน 15 หลา ก่อนที่จะเปิดบอลโด่งอย่างสุดยอดชนิดที่น้อยคนนักจะคาดคิด บอลลอยข้ามแผงกองหลังของทีมเยือนไปถึงไรอัน กิ๊กส์ ที่วิ่งสอดขึ้นมา ปีกชาวเวลส์ปล่อยบอลลงพิ้นก่อนที่จะฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยเท้าซ้ายผ่านมือไรท์ เข้าไปตุงตาข่ายเสียบมุมอย่างงดงาม
รูนี่ย์ ซึ่งแทนที่จะเข้าไปแสดงความยืนดีกับกุล่มเพื่อนร่วมทีมปิศาจแดง กลับวิ่งไปหากลุ่มแฟนบอลเอฟเวอร์ตัน แล้วกำหมัดแน่นชูขึ้นกลางอากาศด้วยความสะใจสุดๆ
โอกาสที่ตามมาอีกมากมายในครึ่งแรกน่าจะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำประตูที่ 2 พลิกกลับขึ้นมานำได้ สโคลส์ ได้จังหวะจ่ายบอลอย่างสุดยอดอีกครั้ง ก่อนที่ซาฮา จะไหลต่อไปให้กับแกรี่ เนวิลล์ ได้วอลเล่ย์จากด้านขวาในกรอบเขตโทษ แต่ถูกไรท์ ปัดออกหลังไปกลายเป็นลูกเตะมุม เนวิลล์ เล่นชิ่งกับกิ๊กส์ ก่อนที่ปีกชาวเวลส์จะเปิดบอลเข้าไปให้รูนี่ย์ ได้โหม่งเต็มหัว แต่ก็ยังไม่ผ่านมือไรท์
ปาร์ค จีซุง ได้จังหวะสร้างสรรค์เกมรุกก่อนจบครึ่งแรก 5 นาที กองกลางชาวเกาหลีวัย 24 ปี เล่นชิ่งสามเหลี่ยมกับสโคลส์ และเนวิลล์ ก่อนที่เขาจะมีที่ว่างหลุดขึ้นไปแล้วไหลบอลต่อไปให้กับซาฮา ที่เปิดบอลต่อไปให้กับกิ๊กส์ ก่อนที่ปีกชาวเวลส์จะโยนบอลเข้ากลางอย่างเหมาะเจาะไปเข้าหัวรูนี่ย์ แต่ลูกโหม่งของเขาพุ่งไปเข้ามือของไรท์
จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังเสมอกับเอฟเวอร์ตัน อยู่ที่ 1-1
เข้าสู่ครึ่งหลัง อดีตผู้รักษาประตูของอิปสวิช และอาร์เซน่อล ต้องออกแรงเซฟอย่างยอดเยี่ยม 2 ครั้งที่เสาแรก โดยครั้งแรกเป็นกิ๊กส์ ได้ยิงเรียดจากการจ่ายบอลมาให้ของรูนี่ย์ ต่อมาเป็นสโคลส์ ได้ยิงจากจังหวะชุลมุนในกรอบเขตโทษ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ยังถูกไรท์ ปฏิเสธอีกครั้ง
ครึ่งหลังผ่านไปได้ 20 นาที การจ่ายบอลของปิศาจแดง เริ่มขาดความแม่นยำไป เซอร์ อเล็กซ์ เปลี่ยนตัวเอาคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงเล่นแทนปาร์ค จีซุง หลังจากนั้นก็ให้ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ลงแทนอลัน สมิธ ที่ได้รับใบเหลืองในช่วงครึ่งหลัง และจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ลงแทนคีแรน ริชาร์ดสัน เพื่อเติมเกมรุกต้องการจะทำประตูให้ได้
แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับถูกแผนโต้กลับของเอฟเวอร์ตัน เล่นงาน การเสียบอลของสโคลส์ จากลูกเตะมุมทำให้เอฟเวอร์ตัน ได้จังหวะสวนกลับจากไซม่อน เดวี่ส์ และเจมส์ บีทตี้ โดยมีริชาร์ดสัน ห้อยเป็นตัวสุดท้ายคนเดียว เดวี่ส์ ไหลบอลไปให้กับบีทตี้ ซัดเต็มข้อ แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังไวโชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันเอาไว้ได้อย่างสุดยอด
ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เล่นด้วยกองหน้า 3 คน โดยจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ตัวสำรองลงมาประสานงานกับซาฮา และรูนี่ย์ ในแดนหน้า ดาวยิงร่างเล็กชาวอิตาลี ได้โหม่งแต่บอลออกข้างเสาไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โยนบอลอย่างไม่หยุดเข้าไปในกรอบเขตโทษของเอฟเวอร์ตัน แต่เดวิด เวียร์ และโจเซฟ โยโบ สกัดลูกกลางอากาศเอาไว้ได้หมด จนกระทั่งทดเวลาบาดเจ็บครบ 4 นาที ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ปิศาจแดง ทำได้เพียงไล่ตามตีเสมอเอฟเวอร์ตัน 1-1
3 คะแนนเป็นสิ่งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการเป็นที่สุดก่อนที่จะลงเล่นเกมที่เหลืออีก 1 นัดในวันพุธ ที่จะพบกับวีแกน เมื่อสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขันก็มีเสียงโห่ไปทั่วสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด กองเชียร์ปิศาจแดง รู้แล้วว่างานไล่ตามเชลซี ที่ยากอยู่แล้วยังต้องมายากมากขึ้นไปอีก ตอนนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกลงมาอยู่อันดับที่ 3 ของตารางพรีเมียร์ชิพ โดยมี 31 คะแนนเท่ากับลิเวอร์พูล รองจ่าฝูง แต่ลูกได้-เสียน้อยกว่า ห่างจากเชลซี จ่าฝูงและแชมป์เก่า อยู่ 12 คะแนน (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
แกรี่ เนวิลล์ 2
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ไนอัน กิ๊กส์ 11 ( น. 15)
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
พอล สโคลส์ 18
ปาร์ค จีซุง 13
เวย์น รูนี่ย์ 8
หลุยส์ ซาฮา 9
อลัน สมิธ 14 ( น. 67)
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
เวส บราวน์ 6
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24 น. 74 อลัน สมิธ 14
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 น. 64 ปาร์ค จีซุง 13
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 42 น. 79 คีแรน ริชาร์ดสัน 23
เอฟเวอร์ตัน
ริชาร์ด ไรท์ 1
โทนี่ ฮิบเบิร์ต 22
ฟิล เนวิลล์ 18
นูโน่ วาเลนเต้ 19
เดวิด เวียร์ 5 ( น. 57)
โจเซฟ โยโบ 4
ไซม่อน เดวี่ส์ 10
เควิน คิลเบน 14
ลีออน ออสแมน 21 ( น. 45)
เจมส์ บีทตี้ 8
เจมส์ แม็คฟาดเด้น 11 ( น. 7)
สำรอง
เอียน เทอร์เนอร์ 13
เปอร์ คร็อลดรัพ 2
หลี่ เถีย 12
มาร์คัส เบนท์ 7 น. 81 เจมส์ แม็คฟาดเด้น 11
ดันแคน เฟอร์กูสัน 9 น. 87 เจมส์ บีทตี้ 8
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำประตู 1, ลูกยิงตรงกรอบ 9, ลูกยิงหลุดกรอบ 7, ลูกยิงโดนบล็อค 5, เตะมุม 9, ฟาวล์ 12, ใบเหลือง 1, การครองบอล 64%
เอฟเวอร์ตัน ทำประตู 1, ลูกยิงตรงกรอบ 4, ลูกยิงหลุดกรอบ 2, ลูกยิงโดนบล็อค 1, ฟาวล์ 12, ล้ำหน้า 3, การครองบอล 36%
Por